นิธิชี้พปช.โหวตกลับหมักเท่ากับตบหน้าศาล
Posted by •°¤*(¯`° All About Politics °´¯)*¤°• at Saturday, September 13, 2008 โดย มติชน วัน ศุกร์ ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551 19:35 น.
นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการปาฐกถา ศาสนธรรมกับการศึกษา ในงานเปิด ประตู...สวนโมกข์กรุงเทพฯ ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชนมีมติเสนอให้ นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ภายหลังที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพการเป็นรัฐมนตรีจากการจัดรายการ ชิมไปบ่นไป และยกโขยงหกโมงเช้า เนื่องจากขัดต่อรัฐธรรมนูญว่า เป็นเพราะดุลอำนาจภายในพรรคพลังประชาชนกำลังรวนเร ไม่ว่าจะเสนอหรือแต่งตั้งใครขึ้นมาก็ไม่สามารถคานได้ เพราะฉะนั้นต้องเกาะนายสมัครไว้ให้แน่น ถ้าถามว่า ตนโกรธหรือไม่ ที่นายสมัคร จะถูกโหวตให้กลับมาเป็นนายกฯ ก็ ยอมรับว่าโกรธ เพราะที่ผ่านมามองนายสมัครเป็น มนุษย์ต่างดาว มาตลอด แต่ก็พยายามหาเหตุผลว่า เป็นเพราะอะไร ทั้งๆที่ศาลวินิจฉัยแล้ว แต่ก็ยังดื้อดึงเลือกขึ้นมาใหม่ ก็เท่ากับว่า เป็นการตบหน้าศาล ซึ่งไม่ใช่ว่า รัฐบาลชุดนี้ทำลายระบบรัฐสภาอย่างเดียว แต่เท่ากับทำลายสถาบันตุลาการไปด้วย มันกลายเป็นเรื่องตลก
ทุกอย่างชัดเจน คนในพรรคก็มองเห็น และก็เห็นว่า สังคมรับไม่ได้ พันธมิตรรับไม่ได้ แต่ทำอย่างนี้ ก็ยิ่งทำให้สังคมเสื่อมโทรมลงไปอีก ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ความเข้าใจของผม ไม่ใช่ว่าเขาโง่เขลาเบาปัญญา แต่มันมีความจำเป็นในการเมืองภายในของเขาเอง
นายนิธิ กล่าวว่า การเมืองปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องการทะเลาะกันของกลุ่มพันธมิตรฯ กับกลุ่มที่ไม่ใช่พันธมิตร ทั้งนี้เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหาการเมืองแล้ว แต่เป็นปัญหาของสังคม เพราะสังคมเปลี่ยนระดับรุนแรงมากๆ ทำให้ตัวระบบการเมืองต้องปรับตัว ซึ่งขณะนี้ ยังปรับตัวไม่ได้ เชื่อว่า ปัญหาจะต้องมีอีก ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า กว่าที่การเมืองไทย จะนิ่งต้องไม่ต่ำกว่า 1 0 ปี คือ จะมีการทะเลาะ ขัดแย้ง ตึงเครียดอยู่อย่างนี้ เพราะฉะนั้นตอนนี้อย่ามาถามทางออก เพราะสิ่งที่สำคัญคือ สิ่งที่สังคมไทยทำไปแล้ว หลังจากที่พันธมิตรฯ ปะทะกับ กลุ่ม นปช.
เมื่อถามถึงกรณีที่นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เสนอให้มีจินตนาการประชาธิปไตย นั้น นายนิธิ กล่าวว่า ประชาธิปไตย ไม่มีแบบตายตัว แต่คือ อุดมคติในความฝันของคนต่างๆ ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนเพราะฉะนั้นไม่มีประชาธิปไตยสำเร็จรูปที่ไหนบนโลกนี้ ทุกสังคมที่เป็นประชาธิปไตยต้องปรับตัวเอง ไปเรื่อยๆ ตามความฝันซึ่งเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ เหมือนกัน เพราะฉะนั้นตนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในการเมืองไทย เพราะการเมืองที่หยุดนิ่งคือการเมืองที่ตายแล้ว ซึ่งตนเห็นด้วยกับแนวคิดการเมืองใหม่ ก่อนที่จะมีการเสนอเสียอีก
อย่าถามว่าการเมืองใหม่จะเกิดขึ้นในรูปแบบใด ไม่มีนักปราชญ์คนไหนสักคนเดียวสมารถทำนายได้ การเมืองใหม่ จะเกิดขึ้นจาก คัดง้าง ขัดแย้ง ต่อรอง ต่อสู้ และอาจจะนองเลือด ของคนกลุ่มต่างๆ กลุ่มที่จะเข้ามามีส่วนแบ่งของอำนาจ กลุ่มเหล่านี้จะเข้ามาต่อรองขัดแย้งไปเรื่อยๆ
เมื่อถามว่า บริบทการเมืองไทยต่อจากนี้จะนำไปสู่ความขัดแย้ง การนองเลือดหรือไม่ นายนิธิกล่าวว่า ตอบไม่ได้ แต่บอกได้เพียงแค่ว่า การปรับระบบ การเมืองไทยที่ผ่านมา อย่างน้อยที่มองเห็นคือ 2 ครั้ง คือ เมื่อปี 2475 คือ การเปลี่ยนระบอบการเมือง อีกครั้งเมื่อปี 2516ย เหตุการณ์ 14 ตุลาฯ ต่อจากนั้นก็มีการต่อรองขัดแย้งกันตลอดเวลา สลับกับการนิ่งของการเมือง และเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ พอสังคมเปลี่ยนก็เกิดคนหน้าใหม่ๆ ที่อยากจะเข้ามามีส่วนแบ่งอำนาจ ก็ต้องเข้ามาและทะเลากันต่อไปอีก อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการเมืองมีการนองเลือด แต่ปัจจุบันไม่รู้ว่าจะมีหรือไม่ อยากชวนให้สังคมไทย เข้มแข็งเอาไว้ ปล่อยให้ทะเลาะกันได้ แต่อย่าให้ใช้ความรุนแรง
0 Comments:
Subscribe to:
Post Comments (Atom)