โดย มติชน วัน ศุกร์ ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551 23:20 น.
ท่านฝากบอก แมสเสจ สั้นๆว่า ได้ทำหน้าที่รักษาประชาธิปไตยอย่างถึงที่สุดแล้ว หลังจากนี้ ไป เป็นภาระของพรรคพปช.ที่จะดำเนินการต่อไป ... ท่านไม่ได้บอกอะไร ฝากให้แมสเสจมาแค่นี้ แต่นี้ไป ขอยุติทุกอย่าง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพรรคจะทำอย่างไร ท่านพูดมาแค่นี้

เมื่อเวลา 15.30 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวกับสมาชิกพรรคในการประชุมใหญ่พรรคชาติไทยประจำปี 2551ย ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่วันที่ 12 ก.ย. ว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 12 ก.ย. เป็นเรื่องที่ด่วนเกินไป ซึ่งพรรคชาติไทยมีจุดยืนว่า หากพรรคใดมีจำนวนส.ส.มากที่สุด พรรคชาติไทยจะเปิดโอกาสให้พรรคดังกล่าวจัดตั้งรัฐบาล แต่หากตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ พรรคที่มีคะแนนรองลงมาจึงสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

นายบรรหาร กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้พรรคชาติไทยจึงให้โอกาสพรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาล แต่ฝ่ายโจมตีก็บอกว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนอมินีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินให้นายสมัครพ้นจากนายกรัฐมนตรี เราก็หารือมาตลอดว่าจะทำอย่างไร พบว่าตอนนี้กระแสสังคม นักเรียน และนักศึกษาไม่เห็นด้วยกับการที่นายสมัครจะกลับเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง จากนั้น พรรคพลังประชาชนก็มาเชิญพรรคชาติไทยให้ร่วมรัฐบาลต่อไป ซึ่งเราก็ยินดี ขอยืนยันว่าเราจะไม่สลับขั้ว เพราะสลับอย่างไรคะแนนก็ไม่ถึง

นายบรรหาร กล่าวต่อว่า คนที่จะเป็นผู้นำรัฐบาลต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ ถ้อยทีถ้อยอาศัย สมานฉันท์ และลดความขัดแย้ง ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะไปไม่รอด จึงเห็นว่าควรขยายเวลาการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป 3 - 4 วัน เพื่อพิจารณาอย่างถ่องแท้ โดยให้คำนึงถึงความสงบสุขของประเทศ อันนี้จึงเป็นที่มาขององค์ประชุมไม่ครบ

ส่วนอีกพรรคหนึ่งไม่ต้องพูด ถึงคิดว่าหวานคอแร้ง มั่นใจว่าจะได้เป็นนายกฯ แน่ เกมต่อเกมก็ต้องแก้เกมกัน แต่ตอนนี้มันก็จบแล้ว ตอนนี้ผู้คนแตกแยกกันมาก บางเวทีก็ให้ข้อมูลที่ผิด ผมเคยพูดว่าวันนี้ประเทศชาติแย่อยู่แล้ว ในหลวงรับสั่งว่าบ้านเมืองใกล้ล้มจมแล้ว แต่ผมเชื่อในพระสยามเทวาธิราชว่ายังมีอยู่ อย่างไรเราก็ต้องช่วยกันกอบกู้ เมื่อคืนผมไม่ได้นอนทั้งคืน ไม่ได้ทำอะไรหรอกแต่นั่งปรึกษาหารือกันว่าจะทำอะไร นายบรรหาร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.40 น. ส.ส.พรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน จำนวน 20 คน นำโดย นายบุญจงค์ วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา และนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม แถลงประกาศเจตนารมย์ว่า จากเหตุการณ์ที่สภาไม่สามารถลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จ เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบนั้น ส.ส.อีสานกลุ่มเพื่อนเนวิน จำนวน 83 คน ได้หารือร่วมกันและมีมติกลุ่มว่า ส.ส.ทุกคนในกลุ่มยังยืนยันที่จะสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

นายบุญจงค์ กล่าวว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางการเมือง ขอให้เป็นอำนาจการตัดสินใจของนายกสมัคร และหลังจากนี้การดำเนินกิจกรรมการทางการเมืองของกลุ่มจะเป็นบึกแผ่น ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชาชนมีมติสนับสนุนนายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ก็ถือว่าเป็นมติที่ใหญ่กว่ามติของกลุ่มเพื่อนเนวิน แต่ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาเราไม่เคยอ้างชื่อกลุ่มเพื่อทำการเคลื่อนไหว โดยเราฟังมติของพรรค แต่ในที่สุดเมื่อมีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ส.ส.บางกลุ่มกลับไม่ปฏิบัติตามมติพรรค

ส่วนกรณีที่ ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา และกลุ่มอื่นๆ รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาลไม่เข้าร่วมประชุมสภา ถือว่าเป็นการแสดงว่าไม่ยอมรับนายสมัครใช่หรือไม่นั้น นายบุญจงค์ กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนไม่มีความแตกแยก แต่เป็นเพียงความแตกแยกทางความคิด และเชื่อว่าถ้ามีการเสนอบุคคลอื่นแทนนายสมัคร ก็คงจะต้องมีการคุยกัน

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่มาร่วมประชุมเพื่อโหวตเลือกนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีว่า เป็นที่ชัดเจนว่าการที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่เข้าร่วมประชุมสภา เป็นการแสดงไมตรีจิตที่ดี ทำให้รู้ว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้เป็นอย่างไร ซึ่งขั้นตอนต่อไปภายในพรรคพลังประชาชน ก็คงต้องมีการปรึกษาหารือกันต่อไป ว่าจะตกลงกันอย่างไร
ถ้าสุดท้ายแล้วยังตกลงกันไม่ได้ ก็คงต้องให้วิธีการคืนอำนาจให้ประชาชนคือต้องยุบสภา สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ก็เพราะมีนักการเมืองปล่อยข่าว ทำให้เกิดความไม่เข้าใจในตัวนายสมัคร นายจตุพร กล่า

เมื่อเวลา 12.30 น. ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่าการที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่เข้าร่วมการประชุมสภาที่มีวาระสำคัญคือเลือกนายกรัฐมนตรี จนทำให้สภาล่มนั้น ไม่น่าจะมาจากการที่พรรคเหล่านั้นไม่อยากเลือก นายสมัคร สุนทรเวช ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่อาจจะเห็นว่าภายในพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นแกนของรัฐบาลยังมีความเห็นที่แตกต่างกัน ยังไม่ตกผลึก เกรงว่าเลือกไปแล้วอาจจะมีปัญหา ดังนั้นภายในพรรคพลังประชาชนต้องคุยกันจนให้ได้ข้อสรุปก่อน โดยเฉพาะกับคนบางกลุ่มที่ออกมาให้สัมภาษณ์ในเชิงไม่พอใจ ทั้งที่วานนี้ได้ประชุมไปถึง 2 ครั้งเพื่อทำความเข้าใจ โดยจะให้เสนอมาว่าต้องการอะไรกันแน่ นอกจากนี้ยังต้องนำเหตุการณ์ในวันนี้ไปถามนายสมัครด้วยว่ามีความรู้สึกอย่างไร

0 Comments:

Post a Comment



Copyright © 2008 - •°¤* All About Politics *¤°• - is proudly powered by Blogger
Smashing Magazine - Design Disease - Blog and Web - Dilectio Blogger Template