โดย คม ชัด ลึก วัน เสาร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2551 13:25 น.

(13ก.ย.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปจังหวัดตรัง กรณีนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ประกาศไม่รับตำแหน่งนายกฯ ว่า นายสมัคร ยังเป็น ส.ส.อยู่ ฉะนั้นความเป็นนักการเมืองก็ยังอยู่ ไม่ได้ลาออกจากการเป็น ส.ส. ถ้าจะเปลี่ยนแปลงบทบาท ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ส่วนข้อเสนอของหลายฝ่ายที่ให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น ตนคิดว่ามีคนหวังดี พูดเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ พูดเรื่องการเมืองใหม่ ก็เป็นความหวังดีส่วนหนึ่งที่อยากจะเห็นการเมืองเป็นไปด้วยดี มีความชอบธรรม และมีการบริหารที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งดีที่คนช่วยกันคิด แต่ตนคิดว่าจะเรียกว่าการเมืองใหม่หรือการเมืองเก่าก็ตาม สาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่คำพูด อยู่ที่ว่า ปัญหาในทางการเมืองจริง ๆคืออะไร คนที่อยู่ข้างนอก อาจมองเห็นไม่ชัดเท่าไหร่ แต่คนในอย่างตนเห็นว่า ปัญหามีจริง เป็นเรื่องที่มีธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือการเมืองที่ใช้เงิน จึงเป็นความไม่ชอบธรรม คนเหล่านี้เอาผลการเลือกตั้งมาเป็นความชอบธรรม ว่าได้รับเลือกตั้งมาแล้ว แต่ไม่ได้ย้อนกลับไปดูว่า กระบวนการเลือกตั้งสุจริตยุติธรรมหรือไม่ ดังนั้นประเด็นจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า เราจะเรียกอะไรแต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงสาระของกระบวนการทางการเมืองได้หรือไม่ สามารถสกัดธุรกิจการเมืองได้หรือไม่ ถ้าไม่สามารถทำได้ต้องยอมรับว่า จะเรียกอะไรปัญหาก็ยังอยู่

นายชวน กล่าวว่า ตนให้ข้อสังเกตุอย่างหนึ่ง คือ นักการเมืองสมัยก่อนไม่ค่อยซื้อเสียงมีน้อยมากที่ให้ผลประโยชน์ตอบแทน แต่ปัจจุบันที่เรียกตัวเองนักการเมืองรุ่นใหม่ เกือบจะพูดได้ว่าหาคนที่ไม่ซื้อเสียงได้ยาก เพราะฉะนั้นตรงนี้ ที่เราจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ ถ้าเราเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ในที่สุด การเมืองก็จะเข้าสู่กระบวนการชอบธรรมมากขึ้น เมื่อการเมืองเกิดความชอบธรรม ใครก็ตามที่จะมาล้มล้างการเมืองที่ชอบธรรมก็ทำได้ยาก

นายชวน กล่าวว่า แต่วันนี้เมื่อมีผู้ชุมนุมมีผู้เรียกร้องความเปลี่ยนแปลง ก็มีความชอบธรรมในแง่ที่ว่า เขาต้องการเปลี่ยนไปสู่ทางที่ดีขึ้น ไปสู่สิ่งที่ชอบธรรมจริงๆ ไม่ใช่เพียงแต่คณะเลือกตั้ง แต่ใช้วิธีการโกงเลือกตั้ง หรือซื้อเสียง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้ปรารถนาทั้งหลายต้องตระหนัก ฉะนั้นถ้าเรามองเป็นปัญหาร่วมกัน ก็ต้องพยายามทำให้การเมืองต่อไปนี้ชอบธรรมมากขึ้น ด้วยการสกัดธุรกิจการเมือง ซื้อ ส.ส. ซื้อนักการเมืองและซื้อพรรคการเมือง ซื้อกระบวนการองค์กรอิสระ ซื้อสื่อมวลชนทุกอย่างให้เป็นพวกของตัวเองหมด นี่คือสาเหตุที่ก่อให้เกิดวิกฤติเป็นต้นมา ทั้งนี้การเมืองพัฒนาไปมากพอสมควร แต่ทั้งหมดก็สะดุดลงในปี 2544 แล้วถอยหลังเมื่อธุรกิจการเมืองเข้ามาเป็นผู้กำหนดชะตาทั้งหมดและอยู่นานเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมยาก แม้ว่าแต่ละคนจะรู้ว่าสิ่งนี้ไม่ถูกต้อง จะเห็นว่าทุกพรรคพูดถึงสิ่งที่ดีและพูดถึงหลักการความถูกต้อง แต่ปัญหาก็คือ ใครจะปฏิบัติได้กี่คน เพราะการเมืองยังประกอบไปด้วยกระบวนการที่ไม่ชอบธรรม มีการมาอ้างเพื่อความชอบธรรม อย่างไรก็ตาม เห็นว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์ แต่อยากให้ท่านเหล่านั้น ทราบความจริงว่า สาเหตุจริงๆ คืออะไร เพราะลำพังคำแนะนำโดยไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร ในที่สุดเราก็จะไม่สามารถเริ่มต้นได้

ถามว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ยอมรับ หากรัฐบาลเสนอชื่อบุคคล 3 ส ตามที่เป็นข่าว มาเป็นนายกรัฐมนตรี คิดว่าทางออกของปัญหาจะเป็นอย่างไร นายชวน กล่าวว่า มีทางออกตลอด เพียงแต่ว่าจะเลือกทางไหน ความจริงข้อเสนอแนะของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (เสนอให้ยุบสภา) ใช่ช่วงเริ่มต้น เป็นข้อเสนอแนะที่คิดว่า ปฏิบัติได้ง่ายที่สุดแต่เจ็บปวดบ้าง เพราะนักการเมืองเลือกตั้งแต่ละทีก็เหนื่อยแสนสาหัส ไม่มีใคร อยากจะเลือกตั้งใหม่ เร็วเกินไป แต่ในเมื่อวันนั้นคนคิดว่าข้อเสนอ ให้ยุบสภาให้เลือกตั้งใหม่ จะเป็นวิธีการที่สลายความวุ่นวายไปได้ในระดับหนึ่ง แม้ไม่ใช่ทั้งหมด แต่ถ้าย้อนกลับไปในที่สุดว่าเลือกตั้งใหม่ ความไม่ชอบธรรมก็จะเกิดขึ้นอีก ซื้อเสียงอีก โกงอีก ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้คนภายนอกสามารถเรียกร้องความถูกต้องได้


นายชวน กล่าวว่า ตนกำลังรอดูว่า พรรคร่วมรัฐบาล ทั้ง 6 พรรคจะตัดสินใจเลือกใครเป็นนายกฯ ขณะนี้ยังวิจารณ์ไม่ได้ เพราะยังไม่ทราบว่า เขาจะเลือกใคร แต่รัฐบาลคงจะต้องคิดว่าจะปฏิบัติอย่างไร ไม่ให้เกิดแรงต้าน ส่วนจะปฏิบัติได้หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง สำหรับการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองนั้น นายชวน มองว่า เป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้เราพูดกันตั้งแต่ต้นแล้ว ว่า เป็นไปไม่ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐบาลเลื่อนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปเป็นวันที่ 17 ก.ย.นั้น คิดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใดอย่างหนึ่งทางการเมืองหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลคงไม่เปลี่ยนแปลงซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ก็คิดว่า การประชุมเมื่อวานนี้(12 ก.ย.) ที่โหวตเลือกนายกฯ จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่แล้วแต่เมื่อประธานสภาฯ นับองค์ประชุม คนก็เข้าใจผิด แม้กระทั่ง ส.ส.ที่ออกมาวิจารณ์ก็เข้าใจผิด เพราะเมื่อวานครบองค์ประชุม ถึงให้มีการเริ่มประชุมสภาได้ แต่มีคนเข้าใจว่านายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค เสนอนายอภิสิทธิ์นั้น มีองค์ประชุมไม่ครบซึ่งไม่ใช่ แต่ไม่ครบตอนที่มีการขอให้นับองค์ประชุม เพราะฝ่ายรัฐบาลเดินออกจากห้องประชุมไปเพราะฉะนั้น ตอนที่เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ ก็ถือว่าครบ


ส่วนกรณีที่ว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้ทำให้สังคมมองพรรคประชาธิปัตย์ในแง่ลบว่า เล่นการเมือง นายชวน กล่าวว่า ตนไม่คิดว่า เป็นอะไรในแง่ลบ แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าห้องประชุม ก็ถือว่าเป็นเรื่องไม่ปฏิบัติหน้าที่เพราะถึงอย่างไร ก็ไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว มีเสียงแค่ 164 เสียง ไม่มีทางที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือทำให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่หน้าที่ของการเสนอตัว ก็ทำมาทุกครั้ง ที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล แม้จะรู้ว่าแพ้ ก็ต้องแสดงเจตจำนงค์ให้ประชาชนเห็นว่า ทำหน้าที่เสนอตัวเองให้พิจารณา

0 Comments:

Post a Comment



Copyright © 2008 - •°¤* All About Politics *¤°• - is proudly powered by Blogger
Smashing Magazine - Design Disease - Blog and Web - Dilectio Blogger Template